โจโจ้เฮ้าเชื่อว่ามีหลายๆครอบครัวที่เลี้ยงสุนัขและกำลังเผชิญกับการดูแลสุนัขตั้งท้องครั้งแรก คุณคงจะมีคำถามเยอะแยะมากมายเลยใช่ไหมล่ะคะ ไม่ว่าจะเป็น สุนัขตั้งท้องจริงๆรึเปล่า? สุนัขตั้งท้องกี่เดือน? ต้องทำยังไงเมื่อสุนัขคลอดลูก? วิธีดูแลลูกสุนัขและแม่สุนัขหลังคลอดมีอะไรบ้าง? วันนี้โจโจ้เฮ้ามีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับวิธีดูแลสุนัขตั้งแต่ตอนท้อง ตอนคลอด และหลังคลอดเพื่อให้ทั้งแม่และลูกสุนัขแข็งแรงและปลอดภัยมาฝากกันค่ะ
สุนัขของคุณตั้งท้องจริงรึเปล่า?
ก่อนที่จะไปถึงการดูแลสุนัขใกล้คลอดนั้น คงต้องถามก่อนว่า คุณแน่ใจใช่ไหมว่า “สุนัขของคุณตั้งท้องจริงๆ ไม่ใช่ท้องเทียม?” หากยังไม่มั่นใจว่าสุนัขตั้งท้องจริงๆหรือไม่ ลองไปอ่านบทความ สัญญาณที่บ่งบอกว่า น้องหมา(อาจจะ)ท้อง! เพื่อความแน่ใจกันก่อน หากเริ่มมั่นใจว่าสุนัขของคุณอาจจตั้งท้อง ควรพาสุนัขไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็ค สัตวแพทย์จะสามารถยืนยันการตั้งท้องได้ ว่าสุนัขของคุณไม่ได้ท้องเทียม และการให้สัตวแพทย์เป็นผู้ตรวจเช็คนั้นจะช่วยให้เรารู้ว่าสุนัขมีอาการผิดปกติอื่นๆอีกหรือไม่สุนัขตั้งท้องกี่วัน?
เมื่อมั่นใจแล้วว่าสุนัขของคุณตั้งท้อง คำถามต่อไปคงหนีไม่พ้นคำถามนี้อย่างแน่นอน โดยปกติแล้ว คนใช้เวลาในการตั้งท้องถึง 9 เดือน แต่สำหรับสุนัขนั้น โดยเฉลี่ยแล้วเขาใช้เวลาตั้งท้องเพียงแค่ 63 วัน หรือ 9 สัปดาห์ หรือประมาณ 2 เดือนกว่าๆ เท่านั้นเองค่ะ ซึ่งสุนัขแต่ละสายพันธุ์ก็อาจจะมีระยะเวลาต่างกันเล็กน้อยอาหารสำหรับสุนัขตั้งท้อง
ปกติเมื่อคนเรารู้ตัวว่าท้อง พฤติกรรมต่างๆรวมถึงเรื่องอาหารอาการกินของเราก็จะเปลี่ยนไป หลายคนคงสงสัยว่า แล้วสุนัขที่ตั้งท้องล่ะ เขาจำเป็นต้องได้รับอาหารบำรุงโดยเฉพาะด้วยรึเปล่า? กินอาหารได้ตามปกติไหม? จริงๆแล้วในช่วงแรกของการตั้งท้อง เรายังสามารถให้อาหารเขาตามปกติได้ แต่ในช่วง 4-5 สัปดาห์ก่อนคลอดควรจะเปลี่ยนเป็นอาหารสำหรับสุนัขที่มีคุณภาพดี เพราะอาหารลูกสุนัขมีโปรตีนและแคลเซียมสูง ซึ่งจะทำให้ร่างกายของแม่สุนัขพร้อมที่จะผลิตนมจำนวนมาก นอกจากนี้ยังควรให้อาหารที่มีปริมาณกากาใยสูงเพื่อช่วยลดอาการท้องผูกเนื่องจากการขยายตัวของมดลูกที่ดันส่วนลำใส้ใหญ่ด้วยเตรียมพร้อมก่อนคลอด
เมื่อใกล้ถึงกำหนดคลอด ควรสร้างพื้นที่ที่เปรียบเสมือนเป็นรังให้กับแม่สุนัข (Nesting Area) อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนที่คุณคิดว่าแม่สุนัขจะคลอดลูก โดยเลือกจุดที่ไม่มีคนเดินพลุกพล่าน เพื่อที่สุนัขได้อยู่เป็นส่วนตัวอย่างเงียบๆ ให้สุนัขอยู่ในเตียงหรือกล่องที่มีผ้าขนหนูหรือผ้าห่มเพื่อให้สุนัขรู้สึก ปลอดภัยและอบอุ่น พร้อมกับเตรียมอาหารและน้ำไว้ในที่พักหรือไว้ใกล้ๆที่พัก เพื่อให้สุนัขเข้าถึงได้ง่าย และเป็นการเตรียมพร้อมให้แม่สุนัขไม่ต้องแยกตัวจากลูกสุนัขหลังคลอดเพื่อไปกินอาหารและดื่มน้ำคอยสังเกตแม่สุนัขไว้ระหว่างที่กำลังคลอดลูก
หากแม่สุนัขไม่ได้ประหม่าเมื่อมีคุณอยู่ด้วย ก็ให้คอยดูไว้ห่างๆ สุนัขจะไม่สบายตัวเมื่อมดลูกหดรัดตัวเช่นเดียวกับคน นี่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการคลอด หลายครั้งที่ลูกสุนัขอาจจะเกิดตอนกลางคืน คุณควรตื่นมาดูสุนัขเป็นระยะ หากแม่สุนัขเดินเป็นวงกลม งุ่นง่าน แสดงว่าสุนัขใกล้คลอดแล้วให้แม่สุนัขทำความสะอาดลูกสุนัขทันที
แม่สุนัขควรทำความสะอาดลูกทันทีที่เกิด ให้เวลาซัก 1-2 นาทีเพื่อเอาถุงน้ำคร่ำออกจากตัวลูกสุนัขและเริ่มเลียลูกเพื่อทำความสะอาด หากสุนัขของคุณใช้เวลามากกว่านั้น คุณสามารถเข้าไปช่วยโดยการเอาถุงน้ำคร่ำออกและเอาผ้านุ่มๆถูตัวลูกสุนัขไปมาเพื่อให้ตัวมันแห้ง และกระตุ้นเสียงร้อง และกระตุ้นให้มันหายใจ ค่อยๆ ผูกปมสายสะดือให้ห่างจากตัวลูกสุนัขประมาณ 1 นิ้ว แล้วตัดสายออกดูให้แน่ใจว่าลูกสุนัขดูดนมแม่
ลูกสุนัขควรเริ่มดูดนมแม่ภายใน 1-3 ชั่วโมงหลังคลอด คุณอาจต้องจับลูกสุนัขวางหน้าหัวนมของแม่และค่อยๆ บีบนมออกมา เพื่อให้ลูกสุนัขเข้าใจว่าต้องทำอะไร หากลูกสุนัขไม่ยอมดูดนม หรือสุนัขของคุณไม่ยอมให้ลูกดูดนม ลูกสุนัขอาจมีอะไรผิดปกติ อย่างเช่นเพดานโหว่ ให้จับลูกสุนัขอ้าปากแล้วมองดูเพดานปาก เพดานปากของลูกสุนัขควรมีพื้นผิวเป็นแผ่นเต็มอัน ไม่มีรูในโพรงอากาศข้างจมูก (sinus) หรือในกรณีที่ลูกสุนัขสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์แต่ไม่ดูดนม คุณอาจต้องชงนมให้ลูกสุนัขแล้วป้อนผ่านสายให้อาหารหรือขวดนมแทนการดูดนมแม่รกสุนัข สารอาหารชั้นดี
หลังจากการคลอดเสร็จสิ้น อย่าเพิ่งทิ้งรกของลูกสุนัข ลูกสุนัขทุกตัวจะมีรกของตัวเอง คุณสามารถให้แม่สุนัขกินรกของลูกๆมันได้ เพราะรกเป็นสารอาหารชั้นดีมากๆ ถึงมีเงินคุณก็หาซื้อมาบำรุงแม่สุนัขไม่ได้ ในบางกรณี เมื่อแม่สุนัขกินรกแล้วอาจจะมีการอาเจียนออกมาภายหลังไม่ควรอาบน้ำแม่สุนัขทันทีหลังคลอด
ถ้าหากแม่สุนัขไม่ได้สกปรกมากๆ ให้รอ 2-3 สัปดาห์ก่อนจะอาบน้ำให้เขา โดยใช้แชมพูข้าวโอ๊ตอ่อนๆ สำหรับสุนัข อาบน้ำให้สะอาดหมดจด จะได้ไม่มีสารตกค้างที่ลูกสุนัขจะเจอได้ระหว่างดูดนมรักษาอุณหภูมิหลังคลอดให้อุ่นเข้าไว้
ลูกสุนัขไม่สามารถปรับอุณหภูมิร่างกายได้ดีนัก คุณจึงต้องหมั่นคอยดูแลให้พวกมันอุ่น ในช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด ให้รักษาอุณหภูมิในกล่องที่สุนัขคลอดลูกไว้ที่ประมาณ 29.5 องศาเซลเซียส จากนั้นค่อยๆ ลดลงเป็น 24-26.5 องศาเซลเซียส โดยใช้โคมไฟให้ความร้อนเพื่อเพิ่มอุณหภูมิ หากลูกสุนัขหนาว มันจะไม่ค่อยขยับตัว คอยตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริเวณที่สุนัขคลอดลูกนั้นอุ่นมากพอ และลูกสุนัขได้อยู่ใกล้แม่และพี่น้องตัวอื่นๆตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์หลังคลอด
อย่าลืมที่จะพาแม่สุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหลังจากที่ลูกสุนัขคลอดแล้ว สัตวแพทย์จะได้ตรวจดูการฟื้นตัวของแม่สุนัขและการเจริญเติบโตของลูกสุนัขไปพร้อมๆกันกันให้สุนัขตัวอื่นอยู่ห่างจากแม่และลูกสุนัข
หากคุณเลี้ยงสุนัขตัวพ่ออยู่ด้วย ต้องคอยกันไม่ให้พ่อสุนัขอยู่ในพื้นที่เดียวกับแม่และลูกสุนัข สุนัขอื่นๆ ในบ้านก็ไม่ควรได้เข้าไปกวนแม่และลูกสุนัขด้วย เพราะมีความเสี่ยงว่าสุนัขผู้ใหญ่จะตีกันเอง และอาจทำให้ลูกสุนัขได้รับอันตรายอีกด้วย แม่สุนัขอาจมีท่าทางดุร้ายเพื่อปกป้องลูกของมัน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ และคุณไม่ควรลงโทษแม่สุนัขเพราะเขาเพียงทำไปตามสัญชาติญาณความเป็นแม่เท่านั้นและนี่ก็คือเกร็ดความรู้ของการดูแลแม่สุนัขตั้งแต่เริ่มตั้งท้องจนคลอด รวมถึงการดูแลทั้งแม่และลูกสุนัขหลังคลอดด้วย หากใครอยากทราบเคล็ดลับดีๆในการดูแลแม่และลูกสุนัขหลังคลอดสามารถตามไปอ่านกันได้ที่บทความด้านล่างนี้นะคะ
อ่านบทความ วิธีดูแลแม่สุนขหลังคลอดให้ปลอดภัยและแข็งแรง
อ่านบทความ วิธีดูแลลูกสุนัขแรกเกิดให้แข็งแรง
โจโจ้เฮ้าเชื่อว่าบทความนี้จะช่วยให้เจ้าของสุนัขมือใหม่ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ดูแลสุนัขตั้งท้องมีความมั่นใจในการดูแลสุนัขมากยิ่งขึ้น รวมถึงลดความกลัวและความประหม่าเมื่อสุนัขคลอดลูกลงไปได้บ้างไม่มากก็น้อย บทความต่อไป โจโจ้เฮ้าจะมีเกร็ดความรู้เรื่องอะไรมาฝากกัน ต้องคอยติดตามนะคะ