กีฬาประเภทนี้จะเป็นการแข่งขันที่ให้สุนัขวิ่งทำเวลาผ่านด่านสิ่งกีดขวางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รั้ว สะพาน กระดานหก อุโมงค์ผ้า วิ่งซิกแซกหรือกระโดด ลอดบ่วง
ความแสนรู้และน่ารักของสุนัขในกีฬาประเภทนี้สะกดผู้ชมจำนวนมากให้จับจ้องการแข่งขันอย่างไม่คลาดสายตาพร้อมทั้งชื่นชมความสามารถของสุนัขจนทำให้หลายๆ คนหลงใหลในกีฬาประเภทนี้ในที่สุด
กีฬาประเภทนี้มีประวัติความเป็นมาไม่นานเท่าไหร่ โดยจัดขึ้นครั้งแรกปี 1978 ในงานCrufts Dog Show ที่มหานครลอนดอนของประเทศอังกฤษไม่ใช่ในฐานะการประกวด ทว่าเป็นแค่การแสดงคั่นเวลาเท่านั้น
แรกสุดสิ่งที่เขาให้ความสนใจคือโชว์ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางแต่ต่อมาก็มีความคิดที่จะเปลี่ยนมาใช้สุนัขกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางแทน ทว่าในช่วงนั้นการนำสุนัขมาแสดงกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางยังไม่มีผู้ใดเคยทำมาก่อนจึงค่อนข้างจะเป็นเรื่องยาก แต่ John ก็ไม่ได้ละความพยายามและได้ปรึกษากับ Peter Meanwell ซึ่งเป็นกรรมการตัดสินที่เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงประกวด โดย John ขอให้ Peter ออกแบบเครื่องกีดขวางเพื่อใช้ในการแสดงโดยเน้นสร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้ชม ทั้งสองทุ่มเททั้งความคิดและความตั้งใจเพื่อให้การแสดงทักษะความคล่องตัวของสุนัขเป็นจริงเมื่อทุกอย่างพร้อมและลงตัวการแสดงดังกล่าวก็เรียกเสียงปรบมือจากสาธารณะชนเป็นครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 1978 เมื่อการแสดงสิ้นสุดลงก็เกิดกระแสความนิยมในกีฬาประเภทนี้ขึ้นมาอย่างเกินคาดจนได้รับการพัฒนาให้เป็นกีฬามาจนทุกวันนี้
เพียงช่วงเวลาข้ามปี กิจกรรมนี้ก็ได้กลายมาเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลกซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นกีฬาที่มีการพัฒนาการและการเติบโตรวดเร็วแบบก้าวกระโดดเลยก็ว่าได้
ปี 1980 John Valey ได้ย้ายไปทำงานกับ The PAL Superdogs Demonstration Team (การแสดงลักษณะใกล้เคียงกับ Agility แต่มีเครื่องกีดขวางขนาดใหญ่กว่า) ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลียโดย John อาศัยอยู่ในย่าน Blue Moutains ทางตะวันตกของซิดนีย์ ไม่กี่ปีจากนั้น John ก็ล้มป่วยและเสียชีวิตลง หลังจากนั้นกีฬาความคล่องตัวสุนัขก็เปลี่ยนไปค่อนข้างมากนับจากวันแรกที่โลกได้รู้จักกับกีฬาประเภทนี้ โดยมีการตั้งกฏกติกาและจัดแข่งขันกันอย่างแพร่หลาย มีเพียงสิ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนั้นก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างสุนัขและผู้ฝึก หลายคนตั้งคำถามว่า สุนัขที่เหมาะกับกีฬานี้ต้องเป็นสายพันธุ์พิเศษโดยเฉพาะหรือไม่ บอกได้เลยว่าสุนัขทุกสายพันธุ์สามารถฝิกได้ ส่วนจะมีวิธีฝึกสุนัขของตนได้อย่างไรนั้นง่ายและได้ผลดีที่สุดคือมองหาศูนย์ฝึกที่ไว้ใจได้โดยเริ่มฝึกการเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งเสียก่อน โดยควรนำสุนัขเข้ารับการฝึกอบรมเมื่ออายุได้ 6-8 เดือน การฝึกต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่าเร่งรัด ไม่ควรให้สุนัขทำในสิ่งที่ไม่เข้าใจหรือเกินความสามารถ ในสุนัขสายพันธุ์ใหญ่การฝึกกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางควรเริ่มเมื่อสุนัขอายุ 12-18 เดือน ด้วยเหตุผลที่ว่าควรปล่อยให้ลูกสุนัขมีการพัฒนาการด้านโครงสร้างร่างกายและกระดูกให้อยู่ตัวเสียก่อนไม่เช่นนั้นอาจทำให้สุนัขได้รับบาดเจ็บหรือมีผลกระทบต่อสุนัขเมื่ออายุมากขึ้น
การฝึกสุนัขต้องเริ่มที่การดึงความสนใจสุนัขให้ได้เสียก่อนเป็นอันดับแรก อาจใช้ของเล่น หรือกิจกรรมสนุกอย่างการเล่นชักกะเย่อมาเป็นตัวล่อเพื่อให้สุนัขรู้สึกว่าผู้ฝึกคือส่วนหนึ่งของกิจกรรมสนุกนี้ โดยการเล่นจะพัฒนาเป็นการทำงานเป็นทีมต่อไปในอนาคต สิ่งที่อันตรายในการฝึกคือการจดจ่อกับการออกคำสั่งและการแก้ไขในสิ่งที่สุนัขทำพลาด จนลืมว่าต้องทำให้สุนัขรู้สึกสนุกมีความกระตือรือร้นที่จะฝึกด้วยความเต็มใจ