การตกแต่งขนเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุนัข ไม่เพียงแต่จะทำให้ดูดีขึ้น ยังช่วยขจัดเศษซากผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออกไป พร้อมทั้งป้องกันขนพันกันเป็นก้อน ซึ่งทำให้สุนัขของคุณรู้สึกอึดอัด การนวดผิวหนังก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ดี ทั้งยังเป็นการขจัดเห็บ หมัด และปัญหาอื่นๆ อีกมากมายที่จะตามมา ทำให้สุนัขของคุณรู้สึกสบาย และเข้ากับคนในบ้านได้ดี ข้อดีอีกข้อหนึ่งของการตกแต่งและทำความสะอาดขนสุนัขคือ ข้าวของในบ้านต่างๆ เช่นโซฟา พรม เสื้อผ้า และของใช้ในครัวเรือนก็ปราศจากจากขนสุนัข รวมถึงคนในบ้านทุกคนก็ปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ อีกด้วย สำหรับการทำความสะอาดขนสุนัขบ่อยแค่ไหน ต้องขึ้นอยู่กับสภาพขนเป็นสำคัญ
มีสุนัขหลายพันธุ์ที่มีขนยาวสวยงามและต้องการการตัดแต่งขนโดยสม่ำเสมอ ซึ่งบางพันธุ์เป็นลูกผสม เช่น เชาเชา (Chow chow ) รัฟ คอลลี่ (Rough Collie) เซทเตอร์ (Setters) มอลทีส(Maltese) โอลด์อิงลิชชีพด็อก(Old English Sheepdog) อาฟกัน ฮาวด์ (Afghan Hound) ปักกิ่ง (Pekingese) ปอมเมอร์เรเนียน (Pomeranian) โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) เชทแลนด์ชีพด็อก (Shetland Sheepdog) และชิสุ (Shin Tzu) เป็นต้น
การตกแต่งตามลักษณะขน
ปัจจุบันนี้ประเทศไทยเรามีสุนัขหลายสายพันธุ์มีทั้งขนสั้น เช่น บ็อกเซอร์ (Boxer) ดัลเมเชี่ยน (Dalmation) เกรย์ฮาวด์ (Greyhound) ปั๊ก (Pug) และ วิปเพท (Whippet) ต้องใช้แปรงค่อนข้างแข็งและถุงมือช่วยในการทำความสะอาดเพื่อป้องกันขนที่หยาบกระด้างทิ่มแทง นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังมีสุนัขสายพันธุ์ขนยาวและมีขนที่แข็งมาก เช่น เทอร์เรียบางสายพันธุ์ (Terriers) แอร์เดล (Airedale) ฟ็อก (Fox) สก๊อตทิช (Scottish) ซีลลีแฮม (Sealyham) เวสท์ ไฮแลนด์ (West Highland) เหล่านี้ต้องใช้แปรงชนิดแข็งและหวีที่ทำจากโลหะเท่านั้น จึงจะทำให้การทำความสะอาดสะดวกมากขึ้น ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ได้ทำทุกขั้นตอนก็ตาม แต่ทว่า หากทำเป็นประจำทุกวัน จะเป็นการช่วยปรับสภาพขนของสุนัขได้มากทีเดียว
การชำระล้างร่างกาย
โดยปกติแล้วเราไม่นิยมอาบน้ำให้ลูกสุนัขที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือนแต่ในกรณีที่จำเป็นจะต้องอาบจริงๆ ละก็ ควรใช้แชมพูสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ ควรจะล้างปากและแปรงฟันของลูกสุนัขให้สะอาดไปพร้อมกันด้วย แต่ในกรณีนี้ควรสังเกตุพฤติกรรมของสุนัขด้วยว่าชอบหรือไม่ชอบ ถ้ามีอาการขัดขืน ต้องไม่พยายามที่จะฝืนใจ ควรที่จะหาวิธีหลอกล่อต่างๆมาช่วย เช่น การให้รางวัลเป็นต้น ข้อควรระวังที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ต้องระวังไม่ให้น้ำเข้าหู เนื่องจากการล้างปากหรือทำความสะอาดฟัน และล้างใบหูนั้นอาจ ทำให้ลูกสุนัขได้รับประสบการณ์ ทีไม่ดีจากการอาบน้ำมาก่อน การอาบน้ำในครั้งต่อๆไปอาจทำได้ยากขึ้นหลังจากขั้นตอนการอาบเสร็จสิ้นลงแล้ว การเช็ดตัวให้ลูกสุนัข ก็เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติด้วยเช่นกันควรใช้ผ้าเช็ดพอหมาดๆ แล้วจึงใช้เครื่องเป่าผมเป่าให้แห้ง เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย ขั้นตอนสุดท้าย ของการอาบน้ำก็คือ การหวีขนให้แห้งเพื่อป้องกัน ขนพันกันเป็นก้อน โดยใช้หวีหรือแปรงของสุนัขโดยเฉพาะ และอย่าลืมที่จะเลือกชนิดของแปรงให้เหมาะสมกับลักษณะขนของสุนัขด้วย
การตัดและเล็มขน
สุนัขบางสายพันธุ์ เช่น พูดเดิ้ล เทอร์เรีย จำเป็นที่จะต้องเล็มหรือตัดขนเป็นประจำ และควรหมั่นพาลูกสุนัขไปร้านตัดขนตั้งแต่เขายังเล็กเพื่อสร้างความคุ้นเคย คุณเองก็สามารถทำได้หลังจากที่ได้ดูการสาธิตสัก 2-3 ครั้ง จากช่างผู้ชำนาญ การตัดแต่งแบบง่ายๆ คือการใช้กรรไกรคมๆ ตัดขนบริเวณง่ามเท้าของสุนัข และขนบริเวณรอบก้นเพื่อป้องกันขนพันกันหลังจากการขับถ่าย นอกเหนือจากการตัดขนแล้วยังมีการตัดเล็บด้วยที่ต้องทำเป็นประจำ แต่ควรที่จะทำเฉพาะกับสุนัขที่โตเต็มที่แล้วเท่านั้น ถ้าหากเจ้าของบางท่านต้องการเล็มเล็บลูกสุนัขสามารถ ทำได้โดยพาไปเดินเล่นบนถนนคอนกรีตก็เป็นการช่วยเล็มเล็บเจ้าตัวเล็กไปในตัวนะคะ